วิธีชนะมิตรและจูงใจคน เป็นหนึ่งในหนังสือสร้างแรงบันดาลใจที่ดีที่สุดตลอดกาล แต่ก็ใช่ว่าจะมีทุกคนชอบมัน นี่คือรีวิวไม่ชอบ ทำไมเขาให้แค่ดาวเดียวกับหนังสือดีเล่มนี้?
ต้องออกตัวก่อนเลยว่า แอดมินชอบเล่มนี้มาก หยิบมาอ่านทีไรได้แรงบันดาลใจลุกโชนขึ้นมาทันที “มันดีมากจริง ๆ” ดีจนอยากแชร์ให้คนที่แอดมินรู้จักได้อ่านกันทุกคนเลย นี่คือหนังสือที่ “อกาลิโก” คือยังคงใช้งานได้แม้เวลาผ่านไปนับร้อยปี เพราะอะไรรู้มั้ยครับ? เพราะ “ธรรมชาติมนุษย์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง” ความปรารถนาลึก ๆ ของมนุษย์นั้น ไม่ว่าจะอยู่ในโลกที่ขับเคลื่อนด้วยเกวียน หรือ ขับเคลื่อนด้วยรถไฟฟ้า ความปรารถนาลึก ๆ ของเราก็ยังคงเหมือนเดิม เรายังคงต้องการความชื่นชม ต้องการความเข้าใจ ต้องการเป็นคนสำคัญ ใครก็ตามที่รู้จุดอ่อนนี้และใช้ให้เป็นประโยชน์เขาจะได้รับความรักความศรัทธาส่งผลให้ได้รับความสะดวกสบายและความมั่งคั่งเป็นผลพลอยได้
โอเค มันดีจริงแหละ จะให้แอดมินยกยอกี่วันก็จะเขียนได้ไม่มีวันหมดสิ้น
แต่เคยสงสัยมั้ยว่า ทำไมหนังสือดีขนาดนี้ ยังมีคนติ ให้แค่ 1 ดาว?
แอดมินไปเจอมา จากเว็บ amazon.com มาดูกันทำไมเขาให้คุณค่าเล่มนี้น้อยเกิน?
- นี่คือสิ่งที่ฉันคิดว่าเกิดขึ้นกับคนที่ทำตามวิธีการเหล่านี้:
การใช้มันกับเพื่อนร่วมงาน = มันจะทำให้คุณเป็นพรมเช็ดเท้า คุณจะถูกผลักไปรอบๆ คุณจะได้รับมอบหมายงานที่ไม่มีใครต้องการเพราะคุณเป็นคนดีในที่ทำงาน
ใช้กับผู้หญิง = มันจะทำให้คุณเป็นเพื่อนและไม่มีอะไรอื่น ผู้หญิงชอบผู้ชายก้าวร้าวที่ไม่กลัวที่จะไม่เห็นด้วย หนังสือเล่มนี้ไม่ได้ช่วยในเรื่องนั้น
ใช้กับเพื่อน = เจ๋ง คุณจะได้รับฟังทุกปัญหาของพวกเขาและยิ้มและเห็นด้วยกับสิ่งที่พวกเขาพูด ฟังดูเป็นแรงจูงใจที่ยอดเยี่ยม
เทคนิคทั้งหมดในเล่มสอนให้คุณอ่อนสุดๆ หนังสือบอกว่าถ้าคุณผิดให้ยอมรับอย่างรวดเร็วและขยายความ มีเนื้อหาส่วนหนึ่งในหนังสือที่กล่าวไว้ว่า หากคุณทำพลาดและมีคนต้องการเผชิญหน้ากับคุณ คุณควรดูถูกตัวเองต่อหน้าคนๆ นั้นเสียด้วยซ้ำ . . ในความเห็นของฉัน
ฉันได้ฝึกฝนวิธีการบางอย่างในหนังสือเป็นเวลาหนึ่งหรือสองสัปดาห์ แต่ตอนนี้ฉันพยายามอย่างมากที่จะเพิกเฉยต่อทุกสิ่งที่ฉันได้อ่าน ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำตามวิธีการเหล่านั้น มันถูกเขียนขึ้นในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน วิธีเหล่านี้จะทำให้คุณเสียวสันหลังวาบ บางทีคุณอาจจะสามารถอยู่รอดได้เช่นนั้น แต่ในฐานะชายหนุ่มในนิวยอร์กซิตี้ ฉันรู้ว่าฉันไม่สามารถทำตามวิธีการเหล่านั้นได้
ผู้เขียนใช้พลังบวกในการขายหนังสือเหล่านี้ ฉันสามารถขายอะไรก็ได้ให้คุณถ้าฉันมีกฎว่าคุณต้องคิดในแง่บวกเกี่ยวกับเรื่องนี้ มันทำให้คุณเชื่อว่าคุณซื้อของมีค่า ดังนั้นผู้ขายก็เชื่อ/ขายคุณไปครึ่งทางแล้ว เป็นกลวิธีโบราณ - ถูกต้อง ฉันให้มิสเตอร์คาร์เนกี 1 ดาว ฉันยืมสิ่งนี้มาจากห้องสมุดของวิทยาลัยจริง ๆ เมื่อฉันยังเป็นน้องใหม่ที่มีตาโตและมีหางเป็นพวง พวกเขาแนะนำหนังสือเล่มนี้และหนังสืออุปนิสัย 7 ประการว่าเป็นหนังสือที่ดีในการอ่าน ช่างเป็นภาระของหม้อ(What a load of crock) ฉันไม่ชนะใจเพื่อนหรือชักจูงคนอื่นหลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้มากไปกว่าที่ฉันเริ่มต้น โดยพื้นฐานแล้ว ฟังคนอื่น ทำตาม และดูว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อจากนี้ ทำไมโพสต์ตอนนี้หลังจากผ่านไปกว่า 10 ปี เรียบง่าย ภรรยาของฉันสั่งสิ่งนี้ในคืนหนึ่งโดยใช้บัญชีของฉัน และมันโผล่ขึ้นมาในขณะที่ฉันกำลังตรวจสอบสิ่งอื่น ๆ ที่ฉันซื้อ อยู่ห่างจากหนังสือเล่มนี้ แต่ถ้าคุณจำเป็น ให้ยืมจากห้องสมุด แล้วเพิกเฉยต่อมัน คุณสามารถทำได้เช่นเดียวกับการดูหนึ่งในรายการรีรันของ PBS จาก Fred Dyer และฟังการบรรยายเรื่อง Power of Intention ของเขา หรือคุณสามารถทำตัวดีกับคนอื่น รับฟังพวกเขามากขึ้น กล้าแสดงออก และบำเรอ ผลลัพธ์เดียวกัน ตอนนี้ฉันเกลียดหนังสือชื่อสูงส่งเหล่านี้จริงๆ 7 นิสัยนั้นก็เป็นภาระของหม้อเช่นกัน พวกเขามอบให้เมื่อพี่ชายของฉันสำเร็จการศึกษาจากการคบหาหลังการผ่าตัด เอาจริง ๆ ถ้าพวกเขาทำแบบนั้นได้ดีจนสามารถเข้ารับการผ่าตัดและจบการคบหาได้ ฉันถือว่าพวกเขาค่อนข้างประสบความสำเร็จและพัฒนานิสัยที่ได้ผลอย่างมาก ณ จุดนั้น ดูเหมือนว่ามีหนังสือช่วยเหลือตนเองเหล่านี้ซึ่งมักไม่ทำอะไรเลยนอกจากทำเงินให้กับผู้เขียน คุณสามารถหาคำตอบได้จากการทำวิปัสสนา บ่อยกว่านั้น คนๆ หนึ่งรู้อยู่แล้วว่าต้องเปลี่ยนแปลงอะไรเพื่อให้ถูกใจมากขึ้นในการเริ่มต้น ด้วยเหตุผลนี้และไม่มีผล ฉันให้ 1 ดาว
- ฉันอ่าน (ส่วนใหญ่) หนังสือเล่มนี้เพื่อวัตถุประสงค์ทางวิชาการ ฉันดูเป็นคนขี้ระแวง ฉันคาดหวังที่จะเรียนรู้ข้อเท็จจริงเบื้องต้นเกี่ยวกับจิตวิทยาและได้รับข้อมูลเชิงลึกเล็กน้อยเกี่ยวกับการเข้าสังคม สิ่งที่ฉันได้รับคือคำแนะนำทั่วไป “หากคุณทำตามขั้นตอน A-Z” คุณจะพบได้ในการช่วยเหลือตนเองส่วนใหญ่ ฉันจะให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับการเข้าสังคมในย่อหน้านี้มากกว่าที่คุณจะได้รับจากห้องสมุดที่เต็มไปด้วยขยะเช่นหนังสือเล่มนี้ หากคุณทำตามคำแนะนำของ “วิธีชนะมิตรและโน้มน้าวใจผู้คน” ในจดหมายนานกว่าหนึ่งสัปดาห์โดยไม่ทำให้ตัวเองเป็นบ้า:
1) คุณเป็นพวกต่อต้านสังคม
2) คุณจะหลอกตัวเองให้เชื่อว่าคุณกำลังได้มิตรภาพ
3) คุณจะโทษตัวเองเมื่อสิ่งต่าง ๆ ไม่เป็นไปตามที่คาดไว้
หนังสือเล่มนี้ทำในสิ่งที่ควรทำ และทำได้ดีด้วย มันทำให้ผู้อ่านมีความหวังผิดๆ และรักษาภาพลวงตาว่าสิ่งที่ผู้อ่านคาดว่าจะได้รับจากการอ่านข้อความนั้นเกิดขึ้นในชีวิตทางสังคมของพวกเขา แต่ด้วยความสัตย์จริง วิญญาณที่หลงทางและน่าสงสารคนใดก็ตามที่คาดหวังว่าจะได้รับความสำเร็จทางสังคมจากข้อความประเภทนี้สามารถทำได้โดยง่าย ณ จุดนี้ในชีวิตของคุณ คุณมีทักษะที่จำเป็นในการผูกมิตรและจูงใจผู้คนแล้ว เป็นทักษะเช่น สามัญสำนึก มารยาท ศีลธรรม และความเคารพ เดินเข้าไปหาคนแปลกหน้า แนะนำตัวเองด้วยรอยยิ้มและคำทักทาย ช่วยเหลือพวกเขาเมื่อคุณทำได้ คอยดูสัญญาณที่พวกเขากำลังเอาเปรียบคุณ แสดงความต้องการของคุณแบบผู้ใหญ่ และให้ข้อมูลการติดต่อก่อนออกเดินทาง นั่นมากกว่าที่คุณจะได้รับจากหนังสือไร้ประโยชน์เล่มนี้
ยังมีรีวิวที่ให้ 1 ดาวอีกเยอะเลย ท่านสามารถหาอ่านได้ใน amazon.com (ซึ่งจะว่าไป มันก็ถูกของเขาอยู่นะ)
รีวิวหนังสือเล่มอื่นที่ท่านอาจสนใจ
Comments