All or Nothing = Mikel Arteta ผู้มาปลี่ยนโฉมอาร์เซน่อล

Mikel Arteta เปลี่ยนโฉมอาร์เซน่อลให้พลิกฟื้นกลับมาได้อย่างไร จาก All or Nothing
บทความจาก independent.ie โดย Jamie Braidwood (ผมแปลแบบงู ๆ ปลา ๆ นะครับ ถ้าท่านเก่งอังกฤษให้ไปอ่านบทความต้นฉบับจะดีกว่าครับ)

สารคดี All or Nothing ได้เปิดเผยบุคลิก passion และวิถีปฏิบัติของมิเกล อาร์เตตา ได้อย่างในที่คุณไม่เคยรู้มาก่อน โดยเฉพาะการที่เขาโต้เถียงและปลดโอบาเมยองออกจากตำแหน่งผู้จัดการทีมด้วยเอกสาร

และอีกซีนหนึ่งที่ประทับใจมากคือตอนที่ อาร์เตตา ดึงภาพขึ้นบนกระดานไวท์บอร์ดหลังโต๊ะทำงานแล้ว ถามลูกทีมว่า คุณเห็นอะไร? บางคนเห็นเป็ด ขณะที่คนอื่นเห็นกระต่าย แต่สิ่งที่ อาร์เตตา อยากจะสื่อนั้นเป็นการเปรียบเปรยการเดินทางของทีมอาร์เซนอล

อาร์เตตาพยายามบอกลูกทีมว่าถ้าเขาเห็นเป็ดเขาก็อยากให้นักเตะเห็นเป็ดเหมือนกัน แต่ในตอนนี้ในฤดูกาลของอาร์เซนอลมีกลุ่มของเขามากเกินไปที่เห็นกระต่ายตามที่เขาชอบ

อาร์เตตา เป็นผู้จัดการทีมคนหนุ่มที่มีความมุ่งมั่นและมีแรงผลักดันอย่างรุนแรงด้วยมันสมองทางเทคนิคที่บ้าคลั่ง นอกจากนี้เขายังมีกลอุบายในการปลุกเร้าลูกทีมในแบบที่ไม่เหมือนผู้จัดการทีมคนอื่นและอาจจะล้ำหน้าอยู่ในระดับท็อปของผู้จัดการทีมของพรีเมียร์ลีกด้วยซ้ำไป

เขาบอกว่า “ผมเป็นคนที่ซื่อสัตย์ตรงไปตรงมาแล้วก็เป็นคนที่เรียกร้องมากเช่นกัน ในอุตสาหกรรมนี้ความเคารพไม่มีเงื่อนไข ความเคารพถูกกำหนดโดยผลลัพธ์เท่านั้น ถ้าไม่ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการผู้คนก็จะตำหนิอย่างรวดเร็ว ในบางครั้งพวกเขามองผู้จัดการทีมในแบบที่ไม่เป็นจริง ผมทนทุกข์ ผมมีความรู้สึก ผมมีลูก ผมทำความผิดพลาด ผมร้องไห้ ผมหัวเราะ ตำแหน่งผู้จัดการทีมนั้นคุณต้องแบกรับความคาดหวังอย่างหนักหน่วงถ้าคุณไม่มีภูมิคุ้มกันมากพอคุณก็จะแพ้มัน”

ในตอนที่ 4-6 ของ All or Nothing อาร์เตต้าโฟกัสไปที่การตัดสินใจครั้งใหญ่ที่สุดของเขาในฐานะผู้จัดการทีมนั่นคือเขาตัดสินใจถอดโอบาเมยองออกจากการเป็นกัปตันทีม และตัดออกจากทีมไปอย่างไร้เยื่อใย เพราะอาร์เตต้าได้ติดตามจับผิดบันทึกการละเมิดวินัยของโอบาเมยองมาหลายเดือนแล้วเขาเก็บเอกสารทุกอย่างเกี่ยวกับการมาสายและเมื่อถึงเวลาเขาก็เอาสิ่งนี้มาเป็นเครื่องมือในการปลดโอบาเมยองออกจากการเป็นผู้จัดการทีมและออกจากทีม

“เราต้องตั้งเป้าให้ใหญ่ขึ้นและมาตรฐานที่ใหญ่ขึ้น” เขาบอก “หากเรามีความหมายในการเปลี่ยนแปลงวัฒนธรรมของเราเราต้องยืนหยัดในคำเหล่านั้น”

หลังจากที่โอบาเมยองย้ายออกไปลูกทีมนักเตะของอาร์เซนอลมีความเหนียวแน่นมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของฤดูกาลซึ่งส่งผลให้การแข่งขันของพวกเขามีผลงานที่ดีขึ้นจนเกือบที่จะได้ยืนอยู่ในตำแหน่งที่ 4 ไปแข่ง champions league ด้วยซ้ำไป

หลังจาก All or Nothing จบไป ฤดูกาลใหม่ได้เริ่มขึ้น เราได้เห็นอีกภาพหนึ่งของ Arteta ที่ตอนนี้ดำเนินไปแบบคู่ขนานและแสดงออกมาแบบเรียลไทม์ โดยเกมเปิดพรีเมียร์ลีกเมื่อวันศุกร์ที่แล้วเอาชนะ Crystal Palace ที่ Selhurst Park ซึ่งแสดงผลแรกเริ่มของการเรียกร้องครั้งใหญ่เหล่านั้นจากแคมเปญก่อนหน้า

ฤดูกาลใหม่ของอาร์เซนอล ที่ได้กาเบรียล เฆซุส โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนโก้ รวมถึง วิลเลียม ซาลีบา ทำให้อาร์เซนอลมีทรงบอลมีทีมที่แข็งแกร่งและสร้างผลงานได้ดีกว่าฤดูกาลก่อนอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

ทุกอย่างชี้ไปในทิศทางบวกสิ่งที่เกิดขึ้นในก็เป็นเครื่องเตือนใจว่าฤดูกาลที่แล้วมีช่วงเวลาที่ตกต่ำมากพอๆกับช่วงเวลาที่สูงแต่ในแง่ของการเดินทางของอาร์เตต้า เขาได้พบลูกทีมที่ดูเหมือนจะยอมรับข้อเรียกร้องของเขา บางทีตอนนี้ไม่มีใครเห็นกระต่ายแล้ว ทุกคนเห็นเป็ดเหมือนอย่างที่ อาร์เตต้าเห็น

ปล. ผมได้อ่านบทความเกี่ยวกับอาร์เตต้าแล้วประทับใจมากครับ เดี๋ยวผมจะไปแปลมาให้อ่านกันต่อไปนะครับ ที่ crazylovearsenal.com แห่งนี้ที่เดียวครับ