รีวิวโน๊ตบุ๊คที่แอดมินใช้เทรดหุ้น ในปี 2022 สเป็คอะไร ใช้ลงโปรแกรมอะไรบ้าง แล้วได้กำไรดีมั้ย? สำคัญที่อะไรกันแน่ ระหว่างโน๊ตบุ๊ค กับ เทคนิค มาดูกันชัด ๆ
สวัสดีครับ แอดมินคนนี้นอกจากจะหาเรื่องรีวิวไปเรื่อยแล้ว ก็ยังมีอีกงานอดิเรกหนึ่งคือ “การเทรดหุ้น” เป็น Trader นั่นเองครับ
โดยสไตล์ Trader ของแอดมินก็คือ “สวิงเทรด” และ trend following นั่นเองครับ
สวิงเทรด คือ การซื้อแล้วถือในระยะสั้น ประมาณ 1 สัปดาห์ ถึง 1 ไตรมาส
ส่วน trend following ก็คือ ซื้อแล้วถือไปเรื่อย ๆ ตามแนวโน้ม ระยะเวลาก็ประมาณกันกับสวิงเทรดแหละ แต่บางตัวถ้ามันวิ่งเป็นขาขึ้นยาว ๆ ก็อาจจะต้องถือนานกว่านั้น
แบบไหนที่ให้กำไรดีกว่า? ก็ต้องบอกว่า trend following ครับ แต่ถึงกระนั้นมันก็ไม่ได้กำไรทุกตัวหรอก บางเวลาสวิงเทรดก็ทำเงินได้ดีกว่า ตลาดหุ้นมันก็ไม่แน่นอน
อ้อ…ลืมบอกไป แอดมินยังมีอีกพอร์ต คือ Investor ซื้อแล้วถือยาว ๆ เอาปันผลและส่วนต่าง พอร์ตนี้กำไรดีที่สุดนะ
กลับมาเข้าเรื่อง “โน๊ตบุ๊ค เทรดหุ้น” ในปี 2022 นี้แอดมินก็ยังคงใช้ตัวเดิมที่ซื้อมาตั้งแต่ปี 2021 นั่นแหละ นั่นคือ
- Microsoft Surface Pro 7 (ซึ่งปัจจุบันนี้ตกรุ่นไปแล้วครับ ปีนี้มันเป็น Pro 9 เหมือนรูปบน)
ความจริงแอดมินซื้อโน๊ตบุคตัวนี้ไม่ได้กะเอามาเล่นหุ้นหรอก เพราะความจริงแล้วอาชีพหลักของแอดมินก็คือ “เขียน” ไม่ว่าจะเขียนหนังสือ เขียนบทความลงบล็อก/เว็บไซต์ เป็นหลักครับ ส่วนการเทรดนั้นเป็นผลพลอยได้เท่านั้น เพราะแอดมินจะเทรดผ่านมือถือมากกว่า สะดวกกว่าเยอะเลยครับ
– สำหรับการใช้โน๊ตบุ๊คตัวนี้เทรดหุ้นนั้น มันก็ราบรื่นดีครับ ลื่นปรื๊ด ลื่นปรื๊ด (ความจริงแล้ว บอกความจริงให้ก็ได้ว่า โน๊ตบุ๊คที่ใช้เทรดหุ้นนั้น ไม่จำเป็นต้องแพงหลักสองสามหมื่นก็ได้ ราคาสักหมื่นห้าก็ลื่นปรื๊ด แล้ว มันขึ้นอยู่กับว่าสัญญาณไวไฟหรืออินเตอร์เน็ทของท่านมันแรงแค่ไหนต่างหาก
– โปรแกรมที่แอดมินใช้เทรดก็คือ “Settrade Streaming” (ที่เราเรียกกันสั้น ๆ ว่า Streaming นั่นแหละครับ) ซึ่ง(ถ้าจำไม่ผิดนะ)ไม่ต้องลงโปรแกรมอะไร ก็แค่ล็อกอินเข้าเว็บโบรกเกอร์ของเรา จากนั้นมันก็มีเมนูให้ใช้ Streaming เอง ซึ่งพอเข้าไปแล้วก็จะทำการซื้อ/ขายได้ ดูกราฟได้
– มือใหม่ที่ไม่เคยใช้บางคน สงสัยว่าการดูกราฟหุ้นจะสะดุดมั้ยถ้าใช้โน๊ตบุ๊คราคาถูก ๆ ตคำตอบคือ ก็ไม่นะ แอดมินเคยใช้โน๊ตบุ๊ค acer ราคาหมื่นกว่าบาท ก็ยังคงเทรดได้อยู่ครับ(ราคามือหนึ่งนะ)
– อีกประเด็น เรื่องโปรแกรมดูกราฟหุ้นอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Aspen for browser หรือ eFinance ก็ใช้ได้ครับ เพียงแค่ต้องโหลดโปรแกรมเสริมตามเขาแนะนำ ก็เท่านั้น ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คที่ซื้อในปี 2022 (หรือแม้แต่ในปี 2020 -หรือต่ำกว่านั้นสักปีสองปี ก็ยังคงใช้ได้อยู่ครับ)
– แถมอีกเรื่อง แอดมินเทรดเว็บต่างประเทศด้วยนะ เทรดสไตล์ trend following ที่ eToro นี่ก็สะดวก ไหลลื่น(ตามความแรงของอินเตอร์เน็ท) เข้าเว็บเขาก็ซื้อและขายได้เลย ไม่ต้องลงอะไรเพิ่มครับ
- นอกจากนี้แอดมินก็มีโน๊ตบุ๊คอีกตัว ก็ไม่ได้มีไว้เทรดหุ้นหรอก เอาไว้เล่นเกมเป็นหลัก มันคือ Asus TUF Gaming F15 (ตัวเดียวกับรูปข้างบนนี่เลย – แต่ไม่แน่ใจรุ่นที่เป็นตัวเลขอะไรนั่นนะ ไม่มีใครจำได้หรอกคุณว่ามั้ย?) ตัวนี้แอดมินซื้อในปี 2022 นี่แหละ ด้วยความที่มันเป็นสเป็คเล่นเกมนะ การเปิดโปรแกรมเล่นเกมอะไรก็ไหลลื่นไปหมด (ย้ำอีกครั้งว่า มันขึ้นอยู่กับความแรงของอินเตอร์เน็ทด้วยนะ – notebook สเป็คแรง แต่เน็ทเน่าก็ไร้ประโยชน์) ตัวนี้ก็ใช้ได้ดีเหมือน surface เลยครับ
เวลาซื้อให้ดู Processor กับ RAM ก่อนนะครับ จากประสบการณ์ส่วนตัวนะ โดย…
- Processor ขั้นต่ำควรเป็น Intel Core i3 กับ RAM อย่างน้อย 4GB เช่นตัวนี้ก็ใช้ได้
ทำไมต้อง i3? ตามที่แอดมินเคยมีประสบการณ์ (แต่แอดมินจำรุ่นมันไม่ได้แล้ว) เคยซื้อโน๊ตบุ๊คใช้ฉุกเฉินที่ราคาถูกมาก ประมาณหมื่นเดียว 10,xxx นี่เลย แรก ๆ มันก็ใช้ดีนะ แต่ปัญหาก็คือ สเป็คมันต่ำมาก ๆ (แอดมินบริจาคไปแล้ว จึงระบุไม่ได้จริง ๆ ) มันจะมีปัญหาตอนบูทเครื่องครับ และจากนั้นกว่ามันจะเข้า windows ได้ก็นานนนนเลย แบบนี้ไม่ค่อยเหมาะนะ ข้ามไปเลย จึงอยากแนะนำว่าอย่าซื้อราคาถูก สเป็คต่ำ ๆ ประเภท celeron (ไม่รู้ยังมีอยู่หรือเปล่านะ) เพราะมันอืด มันใช้ได้จริงแต่มันอืดครับ เน็ทแรงก็ยังอืดครับ พออืดแล้ว เมื่อถึงจังหวะเข้าด้ายเข้าเข็ม จะเปลี่ยนไปดูกราฟ จะรีบกลับหน้าไปดูราคา bid offer เพื่อซื้อหรือขาย การสลับหน้าจอเร็ว ๆ แบบนี้ถ้าเป็นโน๊ตบุ๊คสเป็คต่ำ ก็อาจจะแฮงค์ได้ และอาจส่งผลให้คุณไม่ทันขาย ติดดอยได้ง่าย ๆ เดี๋ยวพาลทุบโน๊ตบุ๊คตัวนั้นไป ต้องหาซื้อตัวใหม่มาแทนไม่รู้ตัวนะ
ถ้าจะให้ดีและใช้นาน Intel Core i5 หรือ Intel Core i7 จะใช้ได้หลายปีกว่านะ
โปรเซสเซอร์ที่ความเร็วต่ำ ๆ น่ะ พอใช้นานไปมันจะอืดดดด มากขึ้นเรื่อย ๆ ครับ แต่ถ้ามันแรงกว่า เช่น i5 กับ i7 ก็จะใช้ได้นานกว่าอีกสักปีสองปีโดยที่ความเร็วไม่ตกมากครับ ซึ่งราคาก็จะแพงมากขึ้นไปหลายพันครับ
(ปล. ในความเห็นของแอดมินนะ เอาแค่ i5 ก็พอแล้วครับ)
ส่วน RAM จะมีผลต่อความเร็วด้วยเช่นกัน ซึ่งมันจะสอดคล้องกับประเภทความเร็วของ processor ครับ ให้เอาตั้งแต่ 4GB ขึ้นไปครับ อย่างต่ำ ๆ ควรเป็น 4 ถ้าเป็น 8 ได้ก็ยิ่งไหลลื่น แต่ยิ่งสูงก็ยิ่งแพงตามด้วยครับ
อ้อ..ยังมีอีกเรื่องที่สำคัญ การเคลื่อนย้ายได้สะดวก
ถ้าท่านชอบออกไปเทรดต่างที่ เช่น ร้านกาแฟ ห้าง ก็แนะนำเอาโน๊ตบุ๊คที่บางและเบานะครับ อย่าได้แบกสเป็คที่หนาเตอะที่ใช้เล่นเกมไปเด็ดขาด ปวดหลังตายเลย เน้นรุ่นที่เขาบอกว่า slim หนักกิโลกว่า ๆ นิด ๆ จะดีกว่าครับ ขนาดหน้าจอก็เอา 11-14 นิ้วก็พอครับ จะได้เบา ๆ
แหม…เมื่อเทียบ Macbook กับ Lenovo ราคาเท่า ๆ กันเนี่ย แนะนำให้ซื้อตัวล่างดีกว่านะ น่าจะเบากว่าหรือเปล่า?
แต่จะว่าก็ว่าเถอะ แอดมินมองว่าเราไม่ควรซื้อโน๊ตบุ๊คเล่นหุ้นที่ราคาเกินสามหมื่นเลยนะ เอาสัก หมื่นห้า – สองหมื่นนิด ๆ ก็พอแล้วนะ มันก็ใช้เทรดได้เหมือนกันนั่นแหละนะ (ความเห็นของคนจนน่ะ)
นี่ก็เป็นข้อมูลและเป็นไอเดียเกี่ยวกับ โน๊ตบุ๊ค เทรดหุ้น 2022 ในมุมมองของแอดมินนะครับ ส่วนท่านจะซื้อตัวไหนก็พิจารณาเอาเองนะ ตามกำลังทรัพย์ของท่านเลยครับ
รีวิวเกี่ยวกับโน็ตบุ๊คที่ท่านอาจสนใจ
- รีวิว + แชร์ประสบการณ์ Notebook สำหรับดูกราฟหุ้น
- Notebook สำหรับ Trader ควรมีสเป็คแบบไหนถึงจะเทรดแล้วได้กำไร?
Comments
Comments are closed.