ต้มบ๊วยกระเทียมดองหมูสับ + ข้าวสวย อร่อยลงตัวสุดๆ (ควรกินกับข้าวเปล่า 2 จาน)

ต้มบ๊วยกระเทียมดองหมูสับ + ข้าวสวย ร้านคนชงคนกรุง เอ็มโพเรียม ฟู้ดเซ็นเตอร์ อร่อยลงตัวสุดๆ (ควรกินกับข้าวเปล่า 2 จาน)

วันนี้ผมตั้งใจจะมาบริจาคเลือดครับ ซึ่งที่บริจาคเลือดนั้นมันอยู่ติดกับเอ็มโพเรียม ผมชอบที่นี่เพราะว่าเดินทางมาได้สะดวกดีระหว่างทางนั้นก็มีร้านกาแฟให้นั่งทำงานมากมายและที่สำคัญก็คือมีห้างสรรพสินค้าที่มีอาหารเมนูใหม่ๆให้ผมเลือกกินจะได้เพิ่มความแปลกใหม่ให้กับนิสัยการกินผมได้ด้วย

ก่อนเข้าเรื่องขอสารภาพบาปออนไลน์ไว้หน่อยนะครับ ก่อนนี้ผมเคยมาบริจาคเลือดแล้วนำทางหญิงสาวคนนึงหลงทางครับ ด้วยความที่ผมมั่นใจมากกว่าตัวเองเคยมาหลายครั้งพอเห็นเธอสอบถามทางไปยังสถานที่บริจาคเลือดผมก็แสดงน้ำใจด้วยการนำทางออกไปครับ แต่ปรากฏว่าผมจำชั้นที่เชื่อมไปยังสถานที่บริจาคเลือดผิดครับ พาเธอเดินหลงขึ้นไปชั้นบนแล้วก็ทิ้งเธอไปซะอย่างนั้น (เพราะผมเห็นเธอรู้สึกไม่ไว้วางใจผมแล้ว แถมยังเดินไปถามทางยามที่เฝ้าประตูด้วย) ผมเลยทิ้งเธอแล้วก็เดินหาทางเชื่อมจนเจอครับ ผมเลยไปนั่งที่กระจกติดทางเข้าให้เธอมองเห็นว่ามันเป็นสถานที่แห่งนี้แหละแต่พอเธอเดินเข้ามาก็ทำเป็นไม่สนใจ ผมเองก็ทำเป็นไม่สนใจเช่นกันเพราะรู้สึกผิดไม่กล้าสู้หน้าเธอ ผมรู้สึกผิดมากจึงขอสารภาพบาปผ่านบล็อกของตัวเอง ณ ที่นี้เลยและก็ขอโทษเธอด้วยที่ทำให้เธอรู้สึกหวาดระแวงและผิดหวัง

ก่อนหน้านี้ผมจะไปกินที่ emquartier ครับแต่ด้วยความที่ครั้งนี้รู้สึกอยากจะเปลี่ยนแปลงสถานที่กินบ้างจึงเดินขึ้นบันไดเลื่อนเข้ามาที่ food center ของเอ็มโพเรียมเขาเรียกว่า gourmet eats ครับ

ความรู้สึกแรกที่ผมสัมผัสเมื่อเดินถึงชั้นขายอาหารของเอ็มโพเรียมก็คือ มันมีความเป็นญี่ปุ่นเป็นอย่างมากเลยครับ ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านรวงต่างๆ แม้กระทั่งเสียงเตือนตอนที่เดินเข้าห้องน้ำก็ยังเป็นเสียงภาษาญี่ปุ่นเลยครับ

ของกินมีเยอะมากเลย ผมว่าครึ่งๆเป็นอาหารไทยกับอาหารต่างชาตินะครับ อาหารไทยก็จะมีมาจากร้านดังๆไม่ว่าจะเป็นร้านโกอ่างข้าวมันไก่ เฮ้งหอยทอดชาวเล อะไรพวกนี้ครับ มีข้าวขาหมูอยู่ร้านนึงชื่อดังเหมือนกันแล้วก็ก๋วยเตี๋ยวเป็ดก็มีนะครับ นี่เป็นโซนของร้านอาหารข้างในนะที่คุณต้องไปแลกเงินสดเป็นการ์ดออกมาจ่ายเงินค่าอาหาร ซื้อจ่ายเงินแล้วก็มานั่งกินที่โต๊ะที่เตรียมเอาไว้ให้ซึ่งนั่งสบายมากๆ

รายรอบก็จะเป็นร้านอาหารญี่ปุ่นมีทั้งร้านอุด้งร้านเบอร์เกอร์แล้วก็บะหมี่ญี่ปุ่น

เหตุผลที่ตัดสินใจเลือกร้านนี้ เพราะว่ามันมีการระบุในป้ายว่าได้รับมิชลินหลายปีซ้อน เมนูก็แปลกน่าสนใจ ไม่เคยกินมาก่อนจึงต้องลองดูสักครั้ง

ต้มบ๊วยกระเทียมดองหมูสับ ราคา 150 บาท

ข้าวสวย 20 บาท

รสชาติเปรี้ยวจากน้ำต้มบ๊วยมีหวานติดปลายอยู่เล็กน้อย ทำให้มีความกลมกล่อม ทำให้อยากอาหารเจริญอาหารกินกับข้าวลงตัวพอดีเลยครับ

มันคล้ายกับว่าคุณกินก๋วยเตี๋ยวแล้วคุณตักน้ำส้มสายชูเข้าไปเยอะๆนั่นเลยเปรี้ยวประมาณนั้นแล้วคุณก็ตักน้ำตาลใส่เพื่อตัดเปรี้ยวลง

รสชาติแบบนี้กินเปล่าๆมักจะไม่ค่อยดีครับ คุณต้องกินกับข้าวหรืออะไรก็ตามที่เป็นแป้ง ซึ่งผมว่าข้าวเปล่านี่เป็นอะไรที่ตัดเปรี้ยวได้ลงตัวมากๆ

ย้ำนะครับจากรถสัมผัสลิ้นจรเข้อย่างผมนั้นต้องกินกับข้าวจริงๆ กินเปล่าๆไม่ได้เลย เปรี้ยวเกินพอใจ

ส่วนเรื่องของหมูสับนั้นก็เป็นมาตรฐานทั่วไป ก็คือมีหมูผสมมันด้วยทำให้กินแล้วไม่รู้สึกฝืดคอ แต่มีความอร่อยมันจากการปรุงรสและก็ความอร่อยของเนื้อหมูนั่นเอง

ตอนแรกผมคิดว่าเขาให้มาน้อยนะครับ เพราะปริมาณก็ประมาณครึ่งนึงของชาม แต่พอกินไปกินมาแล้วมันก็พอดีกับข้าวสวยที่เขาให้มาอย่างเหมาะเจาะ

เหตุผลก็ง่ายมากครับ คือทุกครั้งที่คุณตักต้มบ๊วยเข้าปากคุณต้องเติมข้าวต่อไปทันทีเพื่อที่จะตัดเปรี้ยวนั่นเอง ทำให้คุณสามารถกินข้าวในปริมาณที่มากขึ้นได้นั่นเอง

แน่นอนว่าผมกินข้าวเปล่าหมดก่อน เหลือน้ำซุปไว้บ้านเบอะเลย ซึ่งเป็นการกินที่ผิดนะครับ ทางที่ดีแล้วผมควรจะสั่งข้าวมา 2 จานดีกว่าจะได้ลงตัวกับปริมาณต้มบ๊วยที่เขาให้ แต่จะว่าก็ว่าเถอะถึงแม้จะเหลือน้ำซุปไว้ผมก็ยังคงอดตักมาซดไม่ได้นะครับ คือรู้ทั้งรู้ว่ามันเปรี้ยวแต่ก็อดตักมากินไม่ได้ มันก็ไม่ได้ดีเท่าไหร่หรอกถ้าเทียบกับการกินกับข้าวสวยนะครับแต่ก็รู้สึกเสียดายแล้วก็รู้สึกว่ามันก็ยังคงกินต่อไปได้เรื่อยๆนะครับ

นี่คงเป็นเสน่ห์ที่ทำให้ต้มบ๊วยกระเทียมดองหมูสับของร้านนี้ถึงกับได้รับรางวัลมิชลินไปเลยเพราะมันมีความแปลกแยก แต่ก็ลงตัวกันอย่างยิ่งระวังต้มบ๊วยกับข้าวเปล่า ผมว่านะในมุมมองผมคงตีความแบบนี้แหละเป็นมุมมองของคนที่ลิ้นจระเข้อย่างผม

บทความคล้ายกันที่ท่านอาจสนใจ