โรนัลโด้ แตกหักกับแมนยู ทำถูก ทำผิด หรือ นี่แหละคือความ CR7

มีความเห็น วิพากษ์วิจารณ์ การแตกหักแบบจบไม่สวยของคริสเตียโน่ โรนัลโด้ กับสโมสรแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กันมากมาย เขาทำถูกแล้ว หรือ ทำผิด หรือนี่แหละคือความเป็น CR7 บทความนี้จะนำเสนอมุมมองที่เข้าใจความเป็นโรนัลโด้ครับ บอกเลยว่า ถ้าไม่ใช่โรนัลโด้ ที่มีฉายาว่า CR7 ผู้ที่มีหนึ่งเดียวในโลก ก็จะไม่มีทางตัดสินใจทำแบบนี้เด็ดขาด ทำไม? นี่คือความเห็นของผมครับ

  1. Cristiano Ronaldo มีความ Aggressive เป็นเชื้อเพลิง
    ต้องยอมรับให้ได้ว่า โรนัลโด้ นั้น มีพลังพรแสวง มากกว่าพรสวรรค์ เมื่อเทียบกับลิโอเนล เมสซี นักเตะที่ถูกยกมาเปรียบเทียบในฐานะที่ประสบความสำเร็จเท่าเทียมกัน
    กว่าที่โรนัลโด้จะมีผลงานที่โดดเด่นนั้นเขาต้องพยายามฝึกฝน ทะเยอทะยาน พัฒนาตนเองอย่างบ้าคลั่งและมุ่งมั่นเกินร้อยอยู่ตลอดเวลาครับ ความพยายาม ความมุ่งมั่น ทัศนคติผู้ชนะที่เต็มเปี่ยม มันกลายเป็นคาแร็คเตอร์สำคัญที่ทำให้เขามีวันนี้ได้ ความก้าวร้าว ดุดัน อยากเป็นผู้ชนะ ทำให้เขามีวันนี้ได้ ฉะนั้นการที่เขาต้องการความสำเร็จในทุกที่ ที่เขาไปอยู่จึงเป็นสิ่งที่อยู่ในใจ และความคาดหวังของเขาอยู่แน่นอนครับ
    (ที่คุณชอบเขา เพราะความ Aggressive ความมุ่งมั่นนี่แหละครับ ถ้าโรนัลโด้ไม่ไฝ่สูงขนาดนี้ คุณกับเขาก็จะไม่รู้จักกันหรอก ฉะนั้นการที่วันนี้เขายังไฝ่สูง เขายังเชื่อมั่นว่าตนเองเป็นสุดยอด ก็ถือว่าเป็นคาแร็คเตอร์ที่ถูกต้องแล้ว) และในเมื่อสถานที่ที่เขาไปอยู่นั้นมันไม่ซัพพอร์ทความคาดหวังของเขา มันก็ยิ่งทำให้เขาตัดสินใจได้ง่ายขึ้นว่าควรตัดจบกับมันอย่างไร โอเค การกระทำของเขามันอาจทำให้ผู้คนส่วนใหญ่ช็อค แต่เชื่อเถอะ ถ้าคุณมองผ่านมุมของมนุษย์ผู้หนึ่งที่กระหายความสำเร็จอย่างยิ่งยวด การตัดจบแบบเจ็บ ๆ แบบแตกหักอย่างนี้ถือว่า “ไม่เป็นความสุดวิสัย” แต่อย่างใด
  2. ลิโอเนล เมสซี ยังคงบินสูงได้อยู่
    นี่คืออีกปัจจัยที่ทำให้โรนัลโด้ต้องคิดให้เยอะ และตัดสินใจว่าต้องทำอะไรสักอย่างครับ เพราะเมสซีคือคู่แข่งโดยตรงของเขา (ที่ทุกคนก็รู้กันดี) โรนัลโด้ต้องการที่จะเหนือกว่าเมสซีในทุกเรื่องที่สามารถทำได้ โดยเฉพาะ “จำนวนประตู” ฉะนั้นเมื่อเขาเริ่มมีผลงานที่ย่ำแย่ในแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด แถมผู้จัดการทีมก็ไม่ไว้วางใจให้เขาลงเล่นสม่ำเสมอ(ซึ่งเทน ฮาก ก็ไม่ผิดนะครับที่ดร็อป เขาทำเพื่อสโมสร และความมั่นคงของเก้าอี้ตัวเอง) และเมื่อหันไปมองเมสซีที่ยังคงบินสูง ขณะที่ตัวเองที่เป็นขาลงไปเรื่อย ๆ หัวใจของโรนัลโด้มันต้องร้อนรุ่มปานไฟสุมทรวงแน่นอนครับ มันเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ขัดแย้ง ใจหนึ่งก็คิดจะเจียมสังขาร แต่อีกใจก็ยังคงแสวงหาความเคารพ ต้องการพิสูจน์ตัวเอง และผลของการต่อสู้ก็จบลงด้วยการตัดสินใจไปให้สัมภาษณ์รายการทีวีอย่างที่เราทราบกัน
  3. นี่คือทางลงที่ “เจ็บแต่จบ” ที่ Win Win สวยที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย?
    ในมุมมองส่วนตัวของผมนะ ว่าการจบแบบนี้ “แฮปปี้เอนดิ้งทั้งสองฝ่าย” แต่เป็นฝันร้ายของแฟนผีที่รักโรนัลโด้ครับ
    Happy ของโรนัลโด้ ก็คือ เขาไม่ต้อง “ทนอยู่” ในสโมสรที่ไม่สนองต่อความต้องการของเขาอีกต่อไป เขายังอยากลงสนามอยากยิงประตูให้ได้ต่อเนื่อง
    Happy ของสโมสร ก็คือ ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ค่าเหนื่อย อะไรอีก ถือว่าตัด dead wood ที่ไม่อยู่ในแผนการทำทีมของเทน ฮาก ออกไปได้โดยไม่เสียอะไร
    แต่เป็นฝันร้ายของแฟนผีที่คาดหวังกับโรนัลโด้ครับ เพราะพวกเขาอยากให้โรนัลโด้โรยราและแขวนสตั๊ดที่สโมสรที่ถือว่า “ช่วยให้เขาแจ้งเกิด” ในฐานะ CR7 ซึ่งบอกเลยว่า มันไม่ได้อยู่ใน Plan A ของโรนัลโด้หรอกครับ ถ้าเรามองในมุมของมนุษย์ผู้มีความทะเยอทะยานสูงแบบเขา
  4. ถ้าคุณรักโรนัลโด้ จงปล่อยให้เขา ทำในสิ่งที่ควรค่าแก่เขาเถอะครับ
    สำหรับแฟนผี การแตกหักแบบนี้มันทำให้ท่านใจสลายแน่นอน แต่ถ้าลองมองให้ดี มองในมุมที่เข้าใจความเป็น CR7 ที่เปี่ยมไปด้วความทะเยอทะยานแล้ว สิ่งที่เราทำได้ก็คือ “อวยชัยให้พร” แก่เขา คอยซัพพอร์ทเขาดีกว่านะ เพราะอย่างน้อยช่วงเวลาหนึ่งที่เป็นช่วงเวลาทองที่แมนยูฯประสบความสำเร็จอย่างสูง คนที่เป็นคีย์แมนสำคัญก็คือโรนัลโด้นี่แหละครับ อย่าได้แต่ในตอนที่เขาทำให้คุณมีความสุข/สมหวัง แต่ตอนที่เขาทำให้คุณผิดหวังก็อย่าได้ไปซ้ำเติมเขามากเกินไป ผิดหวังได้ แต่ก็ต้องเข้าใจ CR7 ด้วยจะดีกว่าครับ

จากนี้ไป ในช่วงแรก ๆ แผลยังคงสดอยู่ แฟน ๆ ผี ก็จะยังคงเคืองโรนัลโด้อยู่นั่นแหละครับ (และบางคนอาจแค้นฝังหุ่น) แต่เชื่อผมเถอะ “อีกไม่นานก็ลืม” ในที่สุดแฟนผีก็จะยังคงให้ความศรัทธา ยังคงให้เครดิตโรนัลโด้อยู่เหมือนเดิม แม้จะจบไม่สวย จากไปโดยไม่ลาแบบนี้ก็ตามครับ เพราะที่สุดแล้วเมื่อเรามองในระยะยาว เราก็จะเข้าใจ “วิถี” ของฟุตบอล ที่มีช่วงเวลาขาขึ้นสุดคึกกอบโกยความสุขได้โดยไม่รู้จักเบื่อ แล้วจากนั้นก็จะทนทุกข์ ช้ำใจในช่วงขาลง และเมื่อผ่านมันไปได้กลับไปเป็นขาขึ้นรอบใหม่ มีดารานักเตะดาวรุ่งคนใหม่ ที่ทำให้ผลงานทีมกลับมายิ่งใหญ่ได้ เราก็จะค่อย ๆ ลืมชื่อ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ไปทีละนิด ทีละนิด ในที่สุดชื่อนี้ก็จะกลายเป็นตำนานที่กล่าวขานกันแต่เรื่องดี ๆ เรื่องที่เป็นประวัติศาสตร์ที่ CR7 ได้สร้างไว้เท่านั้น

บทความคล้ายกันที่ท่านอาจสนใจ

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *